วันพุธ, เมษายน 24, 2024
ข่าวทั่วไทยอาชญากรรม

ฟ้าผ่านายตำรวจระดับ พล.ต.ต. สังกัด บก.บช.ภ.2 พัวพันเรื่องอื้อฉาว เซ่นแก๊งทวงหนี้โหด

จากกรณีมีกระแสข่าวจากแหล่งข่าวสำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดเผยว่าวันจันทร์ที่ 14 พ.ย.นี้จะมีรายการเชือดนายตำรวจใหญ่ระดับ “พลตำรวจตรี” ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่สังกัด บก.บช.ภ.2 ถึงขั้นให้ออกจากราชการเพราะพัวพันกับเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นในภาคตะวันออกแทบทุกเรื่อง แต่มีพยานหลักฐานชัดเจนในกรณีแก๊งทวงหนี้โหดเป็นกลุ่มชายฉกรรจ์ 8 คน บุกใช้ด้ามปืนทำร้ายกลุ่มชายในพูลวิลล่า แห่งหนึ่งตั้งอยู่ย่านจอมเทียน-พัทยา จ.ชลบุรี ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย และยังใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ยิงยางรถยนต์แตกรวม 3 คัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา

หลังมีการเผยแพร่คลิปภาพระหว่างก่อเหตุจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์แชร์ในโลกออนไลน์มีการคอมเม้นจำนวนมาก ต่อมาวันที่ 19 ต.ค.หลังเจ้าหน้าที่กดดันจนกลุ่มผู้ต้องหาทยอยเข้ามอบตัวส่วนที่หลบหนีตำรวจสามารถตามจับกุมได้ 5 คน ระหว่างเตรียมข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ชายแดน จ.เชียงรายคือนายจักรกฤษณ์ หรือเอ็ม อายุ 32 ปีหัวโจกแก๊งทวงหนี้ นายปวุฒิ หรือเต้ย อายุ 26 ปีและนายจิรวัฒน์ อายุ 26 ปี นายบุญฤทธิ์ หรือฉุย บางบอน อายุ 24 ปีและนายสราลัญ หรือท็อปตลิ่งชัน อายุ 23 ปี ทั้งหมดเป็นแก๊งทวงหนี้ทำมาหากินอยู่เขต กทม. หลังการจับกุมขยายผลกระทั่งทราบว่ามีการเปลี่ยนตัวผู้ต้องหา 2 คนอีกทั้งแก๊งทวงหนี้ยังตบตาพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ด้วยการใช้คนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องคดีมารับสมอ้างอีก 2 คน

คดีนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.ให้ความสนใจเป็นพิเศษลงมาคุมคดีด้วยตนเอง จึงพบความผิดปกติ และทราบว่ามีนายตำรวจระดับสูงอยู่เบื้องหลังการจัดฉาก จึงมีคำสั่งย้าย พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ออกจากพื้นที่พร้อมแจ้ง 3 ข้อหาความผิดมาตรา 149 คือเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และมาตรา 200 ช่วยเหลือไม่ให้รับโทษหรือโทษลดลงแก่ พ.ต.อ.ดังกล่าวด้วย และต่อมาจากการสอบสวนในเชิงลึกยังพบนายตำรวจระดับ พล.ต.ต.ร่วมรับผลประโยชน์และสั่งการให้บิดคดีแก๊งทวงหนี้โหดด้วย ซึ่งประชาชนรวมทั้งสื่อต่างจับตามองไปยังบิ๊กตำรวจนายหนึ่งซึ่งเพิ่งมาประจำการไม่นานและเปลี่ยนบรรยากาศธุรกิจสีเทาจากซบเซากลายเป็นคึกคักเช่นสถานบริการต่างๆแต่มาเกิดกรณีคลับวัน ที่เกิดบานปลายเพราะมีคนปากไม่ดีตะโกนด่าทอเจ้าหน้าที่ระหว่างตรวจค้นโดยระบุว่าจ่ายให้นายใหญ่แล้วทำไมยังมาตรวจ นอกจากนี้ยังพบว่าสถานบริการดังกล่าวมียาเสพติดจำนวนมากทิ้งเกลื่อนที่พื้นจำนวนมาก

ต่อมานายนิติพัฒน์ โชคชัยธนพร อายุ 45 ปี หรือกู๋เอี๋ยว เจ้าของผับดังกล่าวถูกจับระหว่างหลบหนีฐานสวมบัตรประชาชนปลอม นอกจากนั้นยังมีกรณีบ่อนหมูกระทะ ซึ่งตกแต่งอย่าสวยหรูตามสไตล์บ่อนจีนในอาณาจักร 16 ไร่ ถนนพัทยาสาย 3 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จากการตรวจยังพบโต๊ะบาคาร่า 6 โต๊ะ เสือมังกร 1 โต๊ะ ห้องแลกชิปอยู่ในลักษณะใกล้จะเปิด ซึ่งคาดว่าจะต้องมีนายตำรวจใหญ่หนุนหลังแน่นอน ต่อมาเมื่อเวลา 08.20 น.วันที่ 14 พ.ย.ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ บก.ภ.จว.ชลบุรี เพื่อสอบถามเรื่องดังกล่า พบ พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.ชลบุรี มาทำงานและกำลังไหว้พระ แต่ไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าพบโดยได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำ บก.มาบอกว่า ไม่สะดวกให้รายละเอียดและไม่ชี้แจงใดๆ ให้เป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชา และหลังจากนั้นได้ขึ้นรถยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีดำ ทะเบียนตราโล่ ที่จอดอยู่ด้านหลัง บก.ภ.จว.ออกไป โดยมีรถเก๋งสีขาว ไม่ทราบทะเบียนขัลตามกันออกไป ( ตอนแรกรถจอดอยู่ด้านหน้า )
ต่อมาผู้สื่อเดินทางไปที่ สำนักงานตำรวจภูธรภาค 2 แต่พบว่า ผบช.ภ.2 ไม่อยู่จึงโทรศัพท์สอบถามไปยัง พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 ( 081-8285595) นายเวร ผบช.ภ.2 บอกว่าไปราชการนอกพื้นที่ และได้เปิดเผยว่า เรื่องที่มีการลงข่าวในเพจข่าวและกระแสข่าวลือดังกล่าว ตนเปิดเผยไม่ได้ ส่วนรายละเอียดต่างๆนั้นได้รวบรวมหลักฐานส่งให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.หมดแล้ว ต้องรอให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงข่าวเอง หากตนเปิดเผยหรือแถลงข่าวไป เกิดไม่ตรงกับทาง ตร.จะเป็นการไม่ดี

ย้อนกลับไปฟังคำแถลงข่าวเมื่อเวลา 15.30 น.ของวันที่ 25 ตุลาคม 2565 ที่ห้องประชุมชลบุรี ศาลากลางจังหวัดชลบุรีที่มีนายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีพร้อมด้วย พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีในขณะที่ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีที่ได้ชี้แจงเกี่ยวกับมีภาพมีเจ้าของสถานบริการมอบกระเช้าดอกไม้ให้ มีภาพโพยส่วยและมีภาพตนเองกินข้าวกับทางเจ้าของสถานบริการว่า ภาพที่มามอบกระเช้าดอกไม้นั้นเป็นภาพแสดงความยินดีขณะที่ตนเข้ามารับตำแหน่งใหม่ ไม่ได้รู้จักการเป็นส่วนตัว ส่วนภาพที่นั่งกินข้าวกับเจ้าของสถานบริการนั้น เป็นการนั่งกินข้าวร่วมกับคณะกรรมการ กต.ตร.สภ.เมืองพัทยา ซึ่งคณะกรรมการบางคนเป็นเจ้าของสถานบริการ ซึ่งตนไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวและมีคนร่วมงานเป็นจำนวนมาก ส่วนภาพโพยส่วยนั้นน่าจะเป็นภาพเก่าตั้งแต่ตนยังไม่มารับตำแหน่ง และเตรียมฟ้องเพจที่นำภาพเหล่านี้ไปลงให้เกิดความเสียหายด้วยส่วนโพยที่เรียกรับส่วยนั้นเป็นโพยเก่าตั้งแต่ชื่อโบนซึ่งตนมารับตำแหน่งก็เป็นชื่อคลับวันแล้วถ้าตรวจสอบย้อนกลับไปผับดังกล่าวเป็นชื่อโบนตอนนั้นยังไม่ได้มารับตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีเลยต้องตรวจสอบว่าโพยนี้คือโพยอะไรมีตั้งแต่เมื่อไหร่

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *