วันพฤหัสบดี, เมษายน 25, 2024
ข่าวทั่วไทย

ตำรวจเมืองคอน จับมือ รร.สามัญศึกษาวัดแจ้งฝึกซ้อม วิ่ง ซ่อน สู้ เผชิญเหตุคนร้ายคลั่งยากราดยิงมั่ว

(16 พ.ย) พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช มอบหมายให้ พ.ต.ท.ธีระพล พุ่มชัย รอง ผกก.ป. และ พ.ต.ต.มนัส พิทักษ์บูรพา สวป.สภ.เมือง นำทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจและ อส.ตร.เข้าดำเนินการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุวิธีเอาตัวรอดจากเหตุการณ์คนร้ายทาสยาเสพติดเมายามีอาหารคลุ้มคลั่งบุกใช้อาวุธปืนกราดยิง ที่โรงเรียนสามัญศึกษาวัดแจ้ง ซึ่งเป็นโรงเรียนการกุศลของงวัดในพระพุทธศาสนา ต.มท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยมีอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิใต้เต็กตึ๊งนครศรีธรรมราช ร่วมสนับสนุน และคณะครู นักเรียนนำโดยนายยงยุทธ เจริญวงศ์ ผอ.โรงเรียนสามัญศึกษาวัดแจ้ง เข้าร่วมซักซ้อมและสังเกตุการณ์

 

ซึ่งการซักซ้อมแผนเป็นไปตามขั้นตอบปฏิบัติ โดยมีการสมมุติเหตุการณ์เสมือนจริงว่ามีคนร้ายบุกเข้ามาภายในบริเวณโรงเรียนและทุ่งหน้าเข้าไปยังห้องเรียนระดับอนุบาลและใช้อาวุธปืนกราดยิงใส่คุณครูที่อยู่หน้าห้องจนบาดเจ็บล้มฟุบแน่นิ่งจมกองเลือด ซึ่งคุณครูอีกคนที่เห็นเหตุการณ์จึงโทรแจ้งขอความช่วยเหลือไปยังศูนย์วิทยุ 191 ในขณะที่คุณครูที่เหลือตั้งสติแล้วพาเด็ก ๆ วิ่งหนีออกจากห้องอย่างรวดเร็วไปในทิศทางตรงข้ามกับคนร้าย ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเขต 1-2 ได้รับแจ้งเหตุรีบเดินทางมาระงับเหตุ และพบว่าคนร้ายได้บุกเข้าไปในห้องเรียน แต่ไม่มีนักเรียนและคุณครูอยู่ภายในห้องเรียนแล้ว จึงทำการปิดล้อมคนร้ายและขอให้มอบตัว พร้อมกันนั้นทางหัวหน้าสายตรวจ 191 ได้นำกำลังตำรวจมาสมทบทำการปิดล้อมและตะโกนให้คนร้ายยอมมอบตัวแต่คนรายซึ่งมีอาวุธปืนอยู่ในมือไม่ยอมและยิงกราดใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นระยะ ๆ เหตุการณ์เป็นไปอย่างสุดระทึก ทาง พ.ต.ท.ธีระพล พุ่มชัย ได้สั่งตั้งกองอำนวยการร่วมภายในโรงเรียน เพื่ออำนวยการแก้ไขปัญหา และเป็นศูนย์กลางในการอำนวยการและประสานขอรับการสนับสนุนไปยังหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยกู้ภัย เจ้าหน้าบรรเทาสาธารณะภัยเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช นำรถกระเช้า รถดับเพลิงมาเตรียมพรื้อมให้การสนับสนุนได้ทันทีที่ต้องการ และกำชับให้เกิดความสูญเสียให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

ในขณะที่หัวหน้าสายตรวจ 191 พร้อมกำลังตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์ ได้ร่วมกันปิดล้อมห้องเรียนที่คนร้ายอยู่ภายใน พร้อมตะโกนให้คนร้ายวางอาวุธและยอมมอบตัว แต่ไม่เป็นผลเมื่อคนร้ายที่มีอาวุธปืนอยู่ในมือไม่ยอมมอบตัวและใช้อาวุธปืนกราดยิงใส่เจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง จนเจ้าหนาที่ตำรวจจำเป็นต้องปองกันตัวยิงตอบโต้คนร้ายและเกิดการยิงต่อสู้กันอย่างดุเดือด จนในที่สุดคนร้ายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำวิสามัญฆาตกรรมจนเสียชีวิตคาห้องเรียน ทางด้านบรรดาผู้ปกครองที่ทราบข่าวด้วยความเป็นห่วงในความปลอดภัยของบุตรหลานพยายามจะเดินทางเข้ามารับบุตรในโรงเรียน และบางส่วนได้โทรศัพท์เขามาสอบถามเหตุการณ์ว่าเป็นอย่างไร มีนักเรียนได้รับอันตรายบ้างหรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรได้กันพื้นที่ไม่ให้บุคคบลภายนอกที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปภายในบริเวณโรงเรียนอย่างเด็ดขาด และร่วมกับคณะครูต้องชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ปกครองและญาติ ๆของนักเรียน โดยยืนยันว่าเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการ์เอาไว้ได้แล้ว มีคุณครูถูกยิงบาดเจ็บ 1 คน ส่วนนักเรียนไม่มีใครได้รับอันตรายใด ๆ คนร้ายถูกตำรวจยิงเสียชีวิตในห้องเรียน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ฯได้เข้ามาช่วยเหลือคุณครูผู้บาดเจ็บนำส่ง รพ.มหาราช ส่วนพนักงานสอบสวน สภ.เมือง พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พนักงานอัยการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ร่วมกันเดินทางมาสอบสวนชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ และนำศพคนร้ายส่ง รพ.ให้แพทย์ตรวจชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ในขณะที่คุณครูที่พานักเรียนหลบหนีจากห้องเรียนตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุ โดยพานักเรียนเข้าไปซ่อนตัวในห้องเก็บของ พร้อมปิดล็อคประตูหน้าต่างอย่างแน่นหนา พร้อมเตรียมไม้ ก้อนหิน ก้อนอิฐ และเหล็กแป๊บไว้เป็นอาวุธในกรณีที่ต้องต่อสู้กับคนร้าย จนเมื่อทราบว่าสถานการณ์คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ โดยคนร้ายถูกวิสามัญฆาตกรรม และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนำคุณครูผู้บาดเจ็บและคนร้ายที่เสียชีวิตส่ง รพ.มหาราช เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย นายยงยุทธ เจริญวงศ์ ผอ.โรงเรียนสามัญศึกษาวัดแจ้ง จึงอนุญาตให้คุณครูนำนักเรียนออกจากที่ซ่อน ฯและส่งมอบให้กับผู้ปกครองอย่างปลอดภัย

 

พ.ต.ท.ธีระพล พุ่มชัย กล่าวว่า แผนเผชิญเหตุ “หนี ซ่อน สู้”ในวันนี้ฝึกซ้อมได้ 2 ขั้นตอนคือการ หนี และซ่อน เนื่องจากคนร้ายถูกตำรวจกระทำวิสามัญ ฯเสียชีวิตไปเสียก่อน แต่ในกรณีที่คนร้ายพยายามจะติดตามหาคุณครูหรือนักเรียนที่หลบหนี ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนที่ 3 คือการ “สู้” ซึ่งจะหนทางสุดท้าย โดยคุณครูได้หาสิ่งใกล้ตัวที่สามารถเป็นอาวุธได้ เช่น เก้าอี้ แท่งเหล็ก ถังดับเพลิง เป็นต้นไว้ใช้เพื่อต่อสู้กับคนร้ายหากคนร้ายตามหาคุณครูและนักเรียนจนพบ แน่นอนว่ามีหนทางเดียวคือต้องสู้ หากไม่สู้ก็จะเกิดความสูญเสียฝ่ายเดียวจำนวนมาก คุณครูจึงต้องฮึดสู้กับคนร้ายเพื่อบรรเทาความเสียหายที่จะเกิดกับเด็ก ๆ อย่างน้อยก็จะสามารถประวิงเวลาจนเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยคลี่คลายสถานะการณ์ได้ทัน นายยงยุทธ เจริญวงศ์ กล่าวว่า โรงเรียนสามัญศึกษาวัดแจ้งเป็นโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนาเปิดสอนตั้งบแต่ระดับบริบาล-มัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือ ม.6 รวมนักเรียนจำนวน 310 คน

ซึ่งหลังเกิดเหตุการณ์คนร้ายคลุมคลั่งบุกกราดยิงภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กใน จ.หนองบัวลำภู ทำให้มีนักเรียน คุณครู ผู้ปกครองและประชาชนเสียชีวิตถึง 37 ศพบาดเจ็บอีกอีกนับ 10 ราย ตนและคณะผู้บริหาร คุณครูและผู้ปกครองต่างหวั่นวิตกกังวลมาก ๆ เพราะโรงเรียนสามัญศึกษาวัดแจ้งมีเด็กเล็กจำนวนมาก ที่สำคัญภายในวัดแจ้งมีบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่เป็นจิตเวชอันเนื่องมาจากการเสพยาเสพติดเข้ามาวนเวียนอยู่ทุกสันจำนวน 3-4 คน ตนจึงเรียกประชุมคุณครู และผู้ปกครองเพื่อวางแผนแก้ไขปัญหาหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริง เมื่อมีการฝึกซอมเผชิญเหตุทำให้เข้าใจลำดับขั้นตอนและวิธีการปฏิบัติตามขั้นตอน “หนี ซ่อน สู้ “ทำให้นักเรียน คุณครู และผู้ปกครองอุ่นใจมากขึ้น หากเกิดเหตุขึ้นเชื่อว่าจะสามารถนำไปสู่การปฏิบัติตามขั้นตอนได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน

ไพฑูรย์ อินทศิลา /นครศรีธรรมราช

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *