วันอังคาร, พฤษภาคม 7, 2024
ข่าวทั่วไทย

ชี้ชัด บ้านเรือนไทย สร้างกลางลำรางสาธารณะ หลัง 6 หน่วยงานภาครัฐ ลงพื้นที่ตรวจสอบ

ใกล้ถึงจุดอวสานบ้านเรือนไทย 2 หลัง กลางลำรางสาธารณะ ปลัดอำเภอสัตหีบ รองนายกเทศมนตรีตำบลเขาชีจรรย์ นายช่างรังวัดที่ดินสัตหีบ ป่าไม้ ป.ป.ช.ชลบุรี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมบูรณาการตรวจสอบ ชี้ชัดบ้านปลูกกลางลำรางสาธารณะ เทศบาลเตรียมส่งหนังสือสอบถามให้เจ้าของที่ยืนยันสิทธิ์
จากกรณีที่ได้มีประชาชนร้องเรียนสื่อมวลชนว่า ขณะนี้ได้มีนายทุนจากกรุงเทพฯเข้ามาพัฒนาพื้นที่ หมู่ 7 ต.นาจอมเทียน เขตความรับผิดชอบของเทศบาลตำบลเขาชีจรรย์ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พบว่ามีพื้นที่บางส่วนถมดินเกินเข้าไปในลำธารสาธารณะ และขอให้ตรวจสอบบ้านเรือนไทย 2 หลัง ปลูกกลางแอ่งเก็บน้ำสาธารณะ ซึ่งต่อมา นางนงค์ลักษณ์ จิตรใจกล้า รองนายกฯ นายจิตติณ โรจน์บุนส่งศรี นิติกร และ นายพชร ศรีวิชัย ผอ.กองช่าง ได้พาสื่อมวลลงพื้นที่ดังกล่าว พร้อมกับ ดร.สะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.เขต 10 พรรคพลังประชารัฐ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ในฐานะตัวแทนของประชาชนเดินทางไปร่วมตรวจสอบ ชี้แนวเขตสถานที่ที่ได้รับการร้องเรียนด้วย เพื่อให้เกิดความโปร่งใส หน่วยงานภาครัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะได้ไม่ถูกประชาชนเคลือบแคลงสงสัยในการปฏิบัติหน้าที่ของทุกฝ่าย

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ (21 กันยายน 2566)นายสิทธิพร แสงสว่าง ปลัดอำเภอสัตหีบ นายปรีชา แนบถนอม หัวหน้าฝ่ายป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช.ชลบุรี นางนงค์ลักษณ์ จิตรใจกล้า รองนายกฯ นายจิตติณ โรจน์บุนส่งศรี นิติกร และ นายพชร ศรีวิชัย ผอ.กองช่าง นายธนพัฒน์ บรรบุปผา กำนันตำบลนาจอมเทียน นายทวี สุวรรณโชติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ นายประพันธ์ศักดิ์ ขวัญศรี นายช่างรังวัดชำนาญงาน สำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาสัตหีบ และเจ้าหน้าที่จากกรมป่าไม้ เขต 9 ชลบุรี ได้บูรณาการ่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดินสาธารณะ ลำรางสาธารณะที่มีการปลูกสร้างบ้านทรงไทยไม้ จำนวน 2 หลัง กลางลำรางสาธารณะ พบว่าบ้านหลังใหญ่ได้มีการปรับปรุงต่อน้ำ ต่อไฟฟ้าเข้าไปมีร่องรอยการเข้าพัก ส่วนบ้านอีกหลังยังปล่อยให้เป็นบ้านรกร้าง ไม่มีร่องรอยของการเข้าพักอาศัย
นางนงค์ลักษณ์ จิตรใจกล้า รองนายกฯ เปิดเผยว่า สำหรับบ้านเรือไทยไม้ 2 หลังที่ปลูกสร้างกลางลำรางสาธารณะนั้น ได้มีการปลูกสร้างไว้ก่อนที่ผู้บริหารชุดใหม่เข้ามาบริหารต่อจากชุดเก่า ซึ่งในอดีตจะไม่มีผู้ใดได้พบเห็นบ้านทั้ง 2 หลังนี้ เพราะอยู่ด้านในติดกับริมภูเขา มีต้นไม้ขนาดใหญ่บดบัง แต่เมื่อเจ้าของที่ดินได้เข้ามาพัฒนาพื้นที่จึงได้พบว่ามีบ้านเรือนไทยอยู่ด้านในแห่งนี้ ซึ่งทางเทศบาลจะออกหนังสือสอบถามเจ้าของที่ดินทั้ง 2 ราย ที่เข้ามาพัฒนาพื้นที่ว่าเป็นบ้านของผู้ใดที่เข้ามาครอบครองต่อจากเจ้าของเดิม ถ้าพบว่าเป็นบ้านของผู้ใดก็จะแจ้งให้ดำเนินการรื้อถอนออกไปถ้าไม่มีผู้ใดรับทางเทศบาลก็จะดำเนินการต่อไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

หลังที่ 1

——–

หลังที่2

นายสิทธิพร แสงสว่าง ปลัดอำเภอสัตหีบ กล่าวว่า จากกรณีที่ทราบว่ามีการร้องเรียนเพื่อให้ตรวจสอบที่ดินสาธารณะ และลำธาร เพราะประชาชนเกรงว่าถ้าเจ้าหน้าที่รัฐไม่เข้าไปตรวจสอบแนวเขตในตอนนี้ ในอนาคตอาจจะมีการบุกรุกที่ดินสาธารณะ ลำรางสาธารณะ ซึ่งทางอำเภอสัตหีบไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ จึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามารับทราบ และบูรณาการร่วมกันตรวจสอบ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าหน่วยงานรัฐ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นจะดูแล รักษาที่ดินสาธารณะซึ่งเป็นสมบัติของแผ่นดิน ประชาชนทุกคนสิทธิเข้ามาใช้ประโยชน์ ทางอำเภอสัตหีบ ยืนยันว่าจะไม่ปล่อยให้ที่ดินสาธารณะ ลำรางสาธารณะตกอยู่ในการครอบครองของนายทุนอย่างแน่นอน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *