แฉ ปมยิง “อิ้งค์ อธิปบูรพา” สังคมคาใจ ไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า จี้ตำรวจ ลากคอจอมบงการ

คดีสะเทือนขวัญ จ่อยิง นายณัฐภัทร หรือ “อิ้งค์” บุญชารี นักข่าวอธิปบูรพา ลูกชาย “บ.ก.อั๋น”อธิบดี บุญชารี เจ้าของและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์อธิปบูรพา รวมทั้งสื่อออนไลน์ ภายใต้แบรนด์อธิปบูรพา อย่างอุกอาจกลางเมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เมื่อช่วงรุ่งสางของวันที่ 13 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา แม้เสียงปรบมือจะดังรัวๆชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะทีมสืบสวนสภ.เมืองพัทยาที่ใช้ความพยายามตามแกะรอยกลุ่มคนร้าย จนรวบตัวมาได้ ภายในห้วงเวลาที่ยังไม่ทันข้ามวัน ในการเข้ามอบตัวของ นายขวัญชัย ปานทอง หรือ “เป๊กหนองเกตุใหญ่”มือลั่นไกวัย 32 ปี เมื่อเวลา 4 ทุ่มเศษวันเดียวกันนั้น ถึงแม้จะยอมเปิดปากรับสารภาพว่าเป็นคนยิง หากมองดูผิวเผินแล้ว อาจคิดว่าด้วยเพราะสำนึกผิด ตามคำกล่าวอ้างว่า ประกอบสัมมาอาชีพด้วยการขี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ไม่เคยมีเรื่องราวขัดแย้ง หรือ รู้จักกันมาก่อนแต่อย่างใด ลั่นไกด้วยอารมณ์บันดาลโทสะ อ้างว่าเพราะเหยื่อคมกระสุนขี่มอเตอร์ไซค์ปาดหน้า แถมยังแจก “กล้วย”อีกด้วย จึงใช้ปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ บรรจุกระสุนลูกปราย จ่อยิงด้วยมือซ้าย ขณะมือขวาบิดคันเร่ง หมายเด็ดชีวิตในระยะเผาขน!โฟกัสพุ่งเป้า เน้นไปที่จุดตายหมายระเบิดสมอง!

แต่ด้วยมุมองศาเปลี่ยนขณะรถกำลังวิ่ง ทำให้พลาดเป้า กระสุนพุ่งเจาะกรามด้านซ้าย พุ่งเฉียงขึ้นไปตุงเบ้าตาขวา ลูกตะกั่วฝังกระจายในกะโหลก 40 กว่าเม็ด ก่อนที่มือปืนจะเร่งเครื่องหลบหนีไป พร้อมกับเพื่อน2คนที่ซ้อนท้ายขี่ประกบกันมา ดูราวคล้ายกับว่า คอยมาทำหน้าที่คุ้มกัน สุดท้ายแม้ทางตำรวจจะตามลากคอมาได้ยกแก๊งค์ก็ตาม!! ถึง “เป๊ก หนองเกตุใหญ่”จะเปิดปากรับว่าเป็นคนลั่นไกแต่เพียงผู้เดียว ส่วนเพื่อนทั้งสองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆก็ตาม แต่หากไล่เรียงดูแผนประทุษกรรมของคนร้ายที่ถูกบันทึกภาพด้วยกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆแล้ว ภาพเหตุการณ์มันกลับ “ย้อนแย้ง”ขัดกับคำรับสารภาพตามที่กล่าวอ้าง ราวว่าถูกบรรจงแต่งด้วยลิ้นไม่มีกระดูก จากปากของมือปืน พูดไปตามบทที่ถูกออกแบบมา เมื่อทำงานพลาด! ผู้สันทัดในแวดวงนักฆ่า ดูทรงการขับขี่ มือปืนไล่กวดประชิด เข้าตีขนาบประกบเหยื่อจากทางด้านซ้าย ก่อนจะเหนี่ยวไกปืนยิงผ่านหน้าตัวเองด้วยมือซ้าย ขณะที่มือขวาบิดคันเร่ง มองปราดเดียว รู้เลยว่ายุทธวิธียิงในลักษณะเช่นนี้ ไม่ใช่ประเภทอ่อนหัด หรือมือสมัครเล่น ถ้าไม่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างช่ำชองชำนาญการ คงยากที่จะทำได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ เฉียบขาด ยิ่งอาวุธที่นำมาใช้ เป็นปืนหักกลางลำ บรรจุกระสุนลูกซอง ซึ่งมีแรงถีบรุนแรง ถ้าไม่มีทักษะผ่านการฝึกมา ปืนต้องสะบัด แต่ดูจากคลิปกลับนิ่งและเหนียวไกอย่างเลือดเย็น ชาวบ้านชาวเมือง จึงไม่มีใครเชื่อน้ำลายที่คนร้ายพ่นออกมา!! ม่านคดีรูดลงอย่างสวยหรู แต่เสียงคนดูกลับ “อื้ออึง”ไปทุกหย่อมหญ้า ปมค้างคาใจสังคม ดังระงมทุกหัวระแหง!! คัมภีร์ผดุงความยุติธรรมเล่มแรกของโลก สอนไว้ อย่าเชื่ออะไรง่ายๆ โดยเฉพาะลมปากโจรลิ้นกระดกที่ไร้กระดูกของเหล่าทุรชนคนเลว…หาความจริงได้ยาก!!

ขนาดถือปืนไปกดเปรี้ยงๆฆ่าคนตาย ยังยืนกระต่ายขาเดียวว่า “ปืนลั่น” มันคือบทพิสูจน์ “ไม่มีสัจจะในหมู่โจร” จริงแท้แน่นอน ฉะนั้น…. คำรับสารภาพว่าเป็น “เหตุซึ่งหน้า”ของวินมอเตอร์ไซค์ใจอำมหิต มีน้ำหนักพอเชื่อได้หรือไม่? “กึ๋นกากี”ใหญ่กว่า!!ไตร่ตรองให้ถ่องแท้…อย่าคิดแค่… ทำให้มันจบๆไป “กูไม่อยากเหนื่อย” มองย้อนเส้นทางคนข่าวสองพ่อ-ลูก ถูกแขวนอยู่บนเส้นด้ายมาตลอด ด้วยเพราะยึดมั่นต่ออุดมการณ์แห่งวิชาชีพ ยิ่งถ้าเป็นเรื่องในการทำหน้าที่ “หมาเฝ้าบ้าน” ต่อสู้อธรรม อำนาจมืด เพื่อผดุงความยุติธรรมให้เกิดขึ้นต่อสังคมด้วยแล้ว…กัดไม่ปล่อย! บนเส้นทางไม่ต่างไปจาก“ดาบสองคม”เจอทั้งมิตรแท้และศัตรูถาวรที่จ้องเฝ้ารอจังหวะขย้ำ! หลายเรื่องหลายบริบทของสังคม“อธิปบูรพา”หยิบยกออกมาบอกกล่าวต่อสาธารณชน สะท้อนไปยังผู้ที่มีอำนาจในบ้านเมือง มีทั้งแง่มุมสว่างและเงามืด ตีแผ่ความฉ้อฉล กระชากหน้ากากภัยสังคม โดยเฉพาะ “ภัยยาเสพติด”ที่ระบาดหนักหน่วงรุนแรงในพื้นที่เมืองพัทยา ใช้สถานบันเทิงเป็นแหล่งปล่อยของ-เดินยา ค้าขายกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน การออกมาเปิดหน้าชกของ “อธิปบูรพา” ดูเหมือนเป็นการจุดชนวนเชื้อปะทุแค้นขึ้นมา สร้างความไม่พอใจให้กับ “มาเฟีย”ยาเสพติดที่หนีร้อนจากเมืองกรุงมาซบรังเจ้าพ่อสถานบันเทิงเมืองพัทยาบางคนที่เปิด “ผับเดินยา”มอมเมาฝูงแมงเม่าราตรีที่บินเข้าไปติดกับดัก

ขณะเดียวกันมาเฟียยาเสพติด“หนอนเจ้าถิ่น”ในเขตพื้นที่เมืองพัทยาคนเก่าๆหน้าเดิมๆยังอยู่กันครบยังเสวยสุขด้วยการถีบอนาคตเยาวชนตกหุบเหวหายนะ กอบโกยความร่ำรวย เสริมสร้างขุมกำลังลิ่วล้อบริวาร ขยายเครือข่าย ก่อนถึงปากทางพัทยาใต้อีกหลายร้าน รวมถึงร้านเดิมๆ ที่สิงสถิตย์ภายในซอยกอไผ่ ก็ยังอยู่กันครบเช่นกัน ยิ่งช่วงนี้ รัฐบาลไฟเขียวสถานบันเทิงเมืองท่องเที่ยวอย่างพัทยา เปิดได้ถึงตี 4 มีหรือที่เหล่าบรรดามาเฟีย “สายดาร์ค” จะไม่ตีปีกพรึบพรับ คดีจ่อยิงโหด “ณัฐภัทร บุญชารี”ทายาทน้ำหมึก “อธิปบูรพา” ไม่ว่าจะมองมุมไหน ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าเป็นเหตุซึ่งหน้า และเหตุร้ายที่อุบัติขึ้น ซึ่งตรงกับวันงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิดของ “บ.ก.อั๋น” ผู้เป็นพ่อ ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอีกเช่นกัน พฤติการณ์เยี่ยงนี้ “ซุ้มมือปืนเมืองเพชร” เรียกว่า “ยิงฝาก” ทำพ่อไม่ได้ก็ฆ่าลูก ไม่ต่างไปจาก “เด็ดกล่องดวงใจ”ส่งให้เป็นของขวัญวันเกิด อย่างสุดเจ็บปวดร้าวยิ่งนัก ทีมสืบสวนมือระดับพระกาฬ ไม่ว่าจะเป็น สภ.เมืองพัทยา ทีมสืบฯตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร ภาค 2 อย่าเพิ่งวางมือ เส้นทางแห่งคดียังต่อยอดไปได้อีก ปมสังคมคลางแคลงใจ เชื่อว่าคงไม่ “เหลือบ่ากว่าแรง”ในการหาจุดเชื่อมโยงระหว่างมือปืนกับเป้าหมาย “ไอ้โม่ง”จอมบงการ ขยายผลที่มาอาวุธปืน อ้างว่าซื้อมาจากเพจขายปืนเถื่อนในราคา 3,500 บาท จริงไหม?เคยก่อคดีที่ไหนมาก่อนหรือไม่? ก่อนและหลังเกิดเหตุ มือปืนติดต่อสื่อสารกับใครบ้าง? ประวัติรถคันที่ใช้ก่อเหตุ รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงิน ตอบโจทย์เคลียร์ปมที่สังคมตั้งคำถามไปถึง พ.ต.อ.นาวิน ธีรวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และ “แม่ทัพตำรวจบูรพา”พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2 ถอดบทเรียนคดีประวัติศาตร์ “แอม ไซยาไนด์” เริ่มจากเหยื่อสาวรายล่าสุด หัวใจล้มเหลวเสียชีวิตกระทันหัน จนนำไปสู่คดีวางยาฆาตกรรมเหยื่อต่อเนื่องอย่างโหดเหี้ยมเลือดเย็น กว่า 15 คดี ใน 8 จังหวัด
คดีจ่อยิง ณัฐภัทร หรือ “อิ้งค์” บุญชารี “พิราบขาวเพื่อมวลชน” ผู้เสียสละ เป็นปาก เป็นเสียง เป็นตัวแทนของประชาชน แต่กลับถูกหมายปลิดชีวิตอย่างป่าเถื่อน ใจกลางเมืองท่องเที่ยวชื่อก้องโลกอย่างพัทยา สุดอุกอาจ ถึงแม้ว่าจับมือปืนได้แล้ว หากยังปล่อยให้คดีขมุกขมัว เกิดเครื่องหมาย“ปรัศนี”มีเงื่อนงำ ปมเขื่องค้างคาใจสังคม ขืนยังไม่ยอมขยี้ทุกเปลาะปมให้คลี่คลาย หายข้อกังขา หมดจดโปร่งใส ชาวบ้านจะเชื่อมั่นและศรัทธา ต้นธารแห่งความยุติธรรม ได้อย่างไร?