หนุ่มวัย 24 ปี ขับรถเกิดหลับใน เสียหลักพลิกคว่ำ ตกสระน้ำเสียชีวิต

admin 06/11/2022 0 Comments

วันที่ 6 พ.ย.65 เวลา 14.00 น. พ.ต.ท.สุชาติ แย้มศักดิ์ สว. สภ.กบินทร์บุรี ได้รับแจ้งเหตุว่ามีรถตกลงไปในน้ำมีผู้ติดค้างในยานพาหนะ หลังจากได้รับแจ้งพร้อมเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยมูลนิธิสัจจะฯลงพื้นที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ

จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุบริเวณสระน้ำสามเหลี่ยม กว้าง 100 ยาว 100 เมตร ลึก 9 เมตร บริเวณริมถนนขอบสระพบประชาชนมุ่งดูกว่า 100 คน และตรวจสอบพบว่าราวกันสระน้ำพังเสียหาย ที่เกิดเหตุอยู่ในหมู่บ้านบุญโฮม ม.9 ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พบเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสัจจะฯ กำลังช่วยกันค้นหาโดยการใช้ชุดประดาน้ำ ดำน้ำลงไปตรวจสอบพบว่ามีรถยนต์จมอยู่ใต้น้ำ ท่ามกลางญาติ พี่น้อง รวมถึงภรรยาร้องไห้เสียใจจนเป็นลมไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จากนั้นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยฯ จึงใช้รถยกปล่อยลวดสลิงลงไปในน้ำ เพื่อดึงรถขึ้นมาจากสระน้ำ โดยเป็นไปอย่างอยากลำบากเนื่องจากพบว่าภายในน้ำมีเหล็กยาวอยู่ในน้ำคาดว่าน่าจะเป็นเหล็กค้ำราวกันขอบสระได้ตกลงไปพร้อมกับรถ หลังจากใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถดึงรถที่จมอยู่บริเวณสระน้ำดังกล่าวขึ้นมาจากสระน้ำได้พบว่ารถยนต์คันดังกล่าวอยูู่ในสภาพหงายท้องล้อชีฟ้าเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยฯ จึงได้ดึงพลิกกลับแล้วดึงขึ้นมาจากน้ำ หลังจากนั้นตรวจสอบพบรถยนต์คันดังกล่าวคือรถยนต์เก๋ง Honda City สีขาวทะเบียน กน 8464 ปราจีนบุรี ภายในรถพบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย อยู่บริเวณเบาะหลังในสภาพนอนคว่ำหน้า ใส่เสื้อเชิตแขนสั้นสีกรม กางเกงยีนส์ขาสั้น ทราบชื่อต่อมาคือนายสุริยัน สิทธิกฏ อายุ 24 ปี

จากการสอบถาม สุภาพ มะฮะมัด อายุ 38 ปี กล่าวว่า มีคนเล่นน้ำกันอยู่ อยู่ๆเขาก็ขับรถลงไปเลยตรก็ตกใจทำไรไม้ถูกจึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย ลักษณะที่เขาขับมาเมื่อถึงที่เกิดเหตุรถได้เสียหลักพลิกคว่ำลงไปในน้ำ จากการสอบถาม นายแสบ ชินตะวัน อายุ 45 ปี กล่าวว่า ตนกำลังเล่นเรืออยู่ในสระน้ำที่เกอดเหตุ ได้มีรถยนต์เก๋งคันดังกล่าววิ่งมาชนขอบสระและพลิกตีลังกาหงายท้องไปในน้ำ คาดว่าคนขับน่าจะหลับตนกว่าจะวิ่งไปเอาอุปกรณ์มาช่วยก็ช่วยไม่ทัน
ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลกบินทร์บุรี ได้ทำการพิสูจน์พลิกศพในเบื้องต้นที่เกิดแล้ว หลังจากนั้นจึงให้อาสาสมัครกู้ภัยสัจจะฯ นำร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบหาสาเหตุที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรีอีกครั้ง ก่อนจะส่งมอบให้กับทางญาติไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป