ปศุสัตว์จันทบุรี เชื่อมโยงองค์ความรู้การเลี้ยงหมูหลุม จากศูนย์เรียนรู้ทางการเกษตรสู่ศูนย์พัฒนาไม้ผล ตามพระราชดำริ

วันที่ 16 พ.ย.65 น.สพ.ชาติชาย ยิ้มเครือ ปศุสัตว์จังหวัดจันทบุรี พร้อมนายวิชา พุทธศรี เจ้าพนักงานสัตวบาล อ.มะขาม และนายสุนทร บุญมีมาก เจ้าพนักงานสัตวบาลชำนาญงาน กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ นำร้อยโทพีระพงษ์ วงกลม หัวหน้าศูนย์พัฒนาไม้ผล ตามพระราชดำริ จันทบุรี อ.มะขาม และเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ต.กระแจะ อ.นายายอาม มีนายสมศักดิ์ ชัยเกิด เป็นเจ้าของศูนย์ เพื่อเสริมสร้างความรู้ในการเลี้ยงหมูหลุม นำไปประยุกต์ใช้ ในศูนย์พัฒนาไม้ผล ตามพระราชดำริ เป็นการเตรียมพร้อมของคอกก่อนเลี้ยงหมูหลุม ซึ่งมีขั้นตอน

ดังนี้ ขุดดินลึก 90-100 เซนติเมตร กว้าง 3 เมตร ยาว 6 เมตร คิดเป็นพื้นที่ 18 ตารางเมตร สามารถเลี้ยงหมูหลุมได้ 10 ตัว รองก้นหลุมด้วยหญ้าแฝก กิ่งทุเรียน ชั้นบนสุดรองด้วยแกลบ จนได้ความสูงของวัสดุรองพื้น 30 เซนติเมตรจากก้นหลุม แล้วใช้น้ำหมักจุลินทรีย์พรมลงไปในหลุม เพื่อช่วยกำจัดกลิ่นและช่วยในการย่อยสลายมูลหมู พักคอกไว้ 7 วัน ก่อนนำหมูหลุมลงเลี้ยงใหม่ เลี้ยงหมูด้วยหยวกกล้วยสับ ผสมอาหารสำเร็จรูป ช่วยลดต้นทุนค่าอาหารสัตว์ลงได้ประมาณร้อยละ 60 และไม่ใช้ยาหรือสารเคมีในการเลี้ยง ผลผลิตเนื้อสัตว์มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ใช้เวลาเลี้ยงนาน 6 เดือน จึงจับหมูขายในราคา 120 บาทต่อกิโลกรัม หมูหลุมเป็นที่ต้องการของตลาด ผลิตได้ไม่พอขาย และยังได้ปุ๋ยชีวภาพในหลุมประมาณ 4-5 ตันนำไปใส่ในสวนไม้ผลอีกด้วย สำหรับหมูหลุม” เป็นภาษาชาวบ้านที่เรียกการเลี้ยงหมูแบบขุดหลุมลึก โดยมีวัสดุรองพื้นหลุม มีแนวคิดตามหลักการของ“เกษตรกรรมธรรมชาติ” ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของระบบเกษตรกรรมยั่งยืน เป็นการเกษตรที่ไม่เพียงแต่คำนึงถึงผลผลิตจากการเกษตรเท่านั้น แต่เป็นการพัฒนารูปแบบการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความเป็นองค์รวมของระบบนิเวศน์ด้านการเกษตร วงจรชีวภาพห่วงโซ่อาหาร ดิน พืช สัตว์ จุลินทรีย์ พลังธรรมชาติหมุนเวียนจากพลังงานแสงแดด และน้ำ นำมาเป็นปัจจัยในการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ที่เกื้อกูลซึ่งกันและกัน สัตว์ถ่ายมูลออกมาก็นำไปเป็นปุ๋ยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน

ณฐพล ศิริวงษ์ ผู้สื่อข่าว ประจำ จ.จันทบุรี